ประวัติ เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ Erling Haaland

ประวัติ เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ Erling Haaland

วันเกิด : 21 กรกฎาคม 2000

ปัจจุบันอายุ : 22 ปี 11 เดือน

ทีมชาติ : นอร์เวย์

ส่วนสูง : 1.94 เมตร

ตำแหน่ง : กองหน้า

ทีมปัจจุบัน : สโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เส้นทางสู่ความสำเร็จในวงกาลฟุตบอล

เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ แฟนบอลยุคเก่าจะคุ้นๆชื่อ ฮาแลนด์ หน่อยๆ เพราะเด็กที่ชื่อ เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ คือลูกชายของ อัลฟ์-อิงเก้ ฮาแลนด์ อดีตกองกลางชื่อดังของน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และจากนั้นเขาก็ได้ย้ายมายัง สโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั่นเอง เจ้าหนูฮาแลนด์ คนนี้เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ เขานั้นได้โอกาสเข้าไปเป็นเด็กฝึกหัดของ สโมสร บริน ในลีกของประเทศ นอร์เวย์ และด้วยฝีเท้าที่มีพรสวรรค์และรูปร่างที่สูงใหญ่เกินวัยเดียวกัน ทำให้เจ้าตัวได้เลื่อนไปเล่นรุ่นที่อายุมากกว่าตัวเอง

จากนั้นเป็นต้นมา ตัวของฮาแลนด์ เองนั้นได้ฝึกซ้อมและลงเล่นอยู่ที่ประมาณหนึ่งปี จนกระทั่งในปี 2016 เจ้าตัวได้โอกาสขยับขึ้นไปเล่นชุดสำรองของสโมสร บริน และเขาก็ต้องทำให้บรรดาทีมงานสตาฟฟ์โค้ชต้องตะลึง เมื่อเขาจัดการยิงไปถึง 18 ประตู จากการลงเล่นเพียง 14 เกม เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่สุดยอดอย่างมากสำหรับเด็กวัย 16 ปี

จุดเริ่มต้นเส้นทางอาชีพในฟุตบอลยุโรป

ด้วยฟอร์มการเล่นของ ฮาแลนด์ นั้นได้ไปเข้าตาของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่เวลานั้นรับหน้าที่เป็นกุนซือของ สโมสร โมลด์ ในเวลานั้นอยู่ช่วงนึงต่อมาทางสโมสรก็ได้เข้าไปทาบทามตัวเด็กที่มีชื่อว่า เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ จนกระทั่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2017 เจ้าตัวก็ได้ย้ายมาเซ็นสัญญาค้าแข้งกับสโมสร โมลด์ ของลีก นอร์เวย์ เมื่อย้ายมาแล้ว ฮาแลนด์ ก็ใช้เวลาไม่นานเขากลายเป็นนักเตะที่ยิงประตูมากที่สุดให้กับ โมลด์ ด้วยจำนวน 16 ประตู จากการลงเล่น 30 นัด จากทุกรายการและปีนั้นเขายังได้รับตำแหน่งนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีอีกด้วย ซึ่งจากฟอร์มการเล่นอันเร้าร้อนและโดดเด่นของนี้เอง ทำให้ไปเข้าตาของแมวมอง สโมสร เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก สโมสรยักษ์ใหญ่ลีกออสเตรีย จาดนั้นเขาก็ย้ายเข้ามาที่ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ในปี 2019

จุดเริ่มต้นเส้นทางในฐานะทีมชาตินอร์เวย์

จนกระทั่ง ปี 2019 เจ้าหนู ฮาแลนด์ ก็ถูกเรียกตัวขึ้นมาเล่นในทีมชาติชุดใหญ่และได้ลงสนามเกมแรก ในวันที่ 5 กันยายน ในเกมที่ ทีมชาตินอร์เวย์ เอาชนะ ทีมชาติมอลตา ไป 2-0 ในปี 2019 นี้เอง ฮาแลนด์ ได้สร้างสุดยอดสถิติในการลงเล่นทีมชาติ ซึ่งเกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2019 ในรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ในรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อเขาสามารถยิงคนเดียวได้ถึง 9 ประตู ในแมตช์ที่ ทีมชาตินอร์เวย์ เอาชนะ ทีมชาติฮอนดูรัส ไปได้ถึง 12-0 อีกด้วย และจนถึงเวลานี้ ฮาแลนด์ ลงเล่นให้ทีมชาตินอร์เวย์ ชุดใหญ่ไปแล้ว 21 นัด และยิงไปแล้วถึง 20 ประตู อีกด้วย

จากผลงานสุดฮ็อตของเด็กหนุ่มคนนี้ ส่งผลให้ในฤดูกาลแรกที่เขาอยู่กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก เขาทำได้ถึง 4 แฮตทริก และซัดไป 28 ประตู จากการเล่นไป 28 เกมรวมทุกรายการซึ่งการยิงประตูแบบถล่มทลายใรครั้งนี้ได้สร้างสถิติมากมาย ทำให้เขาได้กลับมาเป็นที่สนใจของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลากหลายทีม ซึ่งในขณะนั้นสื่อต่างๆก็ต่างพากันฟันธงแล้วว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจจะได้ตัวไปร่วมทีมแน่นอนแต่สุดท้ายกลับพลิกล็อคเป็น เสือเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมยัก์ใหญ่ในศึก บุนเดสลีกา ที่สามารถคว้าตัวเขาไปร่วมทีมแบบตกตะลึงทั้งวงการลูกหนัง ในช่วงท้ายเดือนมกราคมในปี 2020

การเดินทางสู่การเป็นดาวซัลโวในพรีเมียร์ลีก

และล่าสุด ในฤดูกาล 2022-23 นี้ “จอมมารบูล” หรือ เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ ก็เขย่าวงกาลลูกหนังอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวได้ย้ายจาก ดอร์ทมุนด์ มาค้าแข้งให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมยักษ์ใหญ่จากเกาะอังกฤษ ด้วยค่าตัว 53.5 ล้านปอนด์ การย้ายมายัง “เรือใบสีฟ้า” ครั้งนี้ เรียกว่าเป็นก้าวสำคัญในการชีวิตการค้าแข้งของเจ้าตัวเลยก็ได้ เพราะมีหลายทีมที่ตามจีบเขาอยู่ ทว่าดาวยิงนอร์เวย์ก็ตัดสินใจเลือกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งต้องมาดูกันว่า การมายังลีกที่ขึนชื่อว่าโหดและหินที่สุดในครั้งนี้ ฮาแลนด์ จะทำผลงานได้ยอดเยี่ยมแค่ไหนและจะสามารถสร้างสถิติอะไรให้แฟนบอลได้เห็นกันอีกด้วยหลังจากที่ ฤดูกาลล่าสุด เขานั้นได้คว้ารางวัลดาวซัลโวของเวทีพรีเมียร์ลีก ด้วยการที่เขานั้นทำประตูไปทั้งหมด 36 ประตูในลีก 1 ประตูจาก ลีก คัพ ต่อด้วย 3 ประตูจาก FA cup จากนั้น 12 ประตู ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และอีก 6 ประตู จากการทีมชาตินอร์เวย์